รีวิว My Hero Academia มายฮีโร่ อคาเดเมีย

รีวิว My Hero Academia มายฮีโร่อคาเดเมีย (ญี่ปุ่น: Boku no Hīrō Akademia) เป็นซีรีส์มังงะญี่ปุ่น เขียนและวาดภาพโดย Sutera Vāmirion เริ่มตีพิมพ์ในนิตยสาร Shōnen Jump ประจำปีในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2549[2] ปัจจุบันมีการออกจำหน่ายแล้ว 380 เล่ม (ญี่ปุ่น) และนับตั้งแต่นั้นมาก็ถูกสร้างขึ้น มันเป็นอะนิเมะ ซึ่งจะเริ่มออกอากาศในเดือนเมษายน พ.ศ. 2512 ผลิตโดยสตูดิโอโดจิน

เรื่องราวMidoriya Izuku เป็นนักเรียนมัธยมต้นธรรมดาที่อาศัยอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยผู้คนที่ไม่ธรรมดา เพราะโลกที่เขาอาศัยอยู่ 100% ของมนุษย์ทุกคนมี “ตัวตน” หรือพลังเหนือธรรมชาติ แต่อิซึกุใฝ่ฝันที่จะเป็น “ฮีโร่” หรือปีศาจมาตั้งแต่เด็ก แม้ว่าตัวเขาเองจะมีตัวตนมาตั้งแต่เกิด และทำให้เพื่อนล้อเลียนหรือรังแกเพราะเหตุผลข้างต้น แต่หลังจากเหตุการณ์สำคัญครั้งหนึ่งที่อิซึกุพยายามช่วยเพื่อนสมัยเด็กของเขาจาก “ผู้ร้าย” (คนที่ใช้ตัวตนของเขาในทางที่ดี) ฮีโร่อันดับ 1 ก็กลายเป็นขยะในสายตาของ… อิซึกุตั้งชื่อว่าออลไมท์ (ออลไมท์) ได้เห็นการกระทำอันกล้าหาญของอิซึกุ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจมอบอัตลักษณ์ “หนึ่งเดียวเพื่อทั้งหมด” ให้กับอิซูกุในฐานะผู้สืบทอด เรื่องราวหลังจากนี้เล่าถึงประสบการณ์ใน “UA High School” ของมิโดริยะและอุปสรรคต่างๆ

รีวิว My Hero Academia เรื่องย่อ

รีวิว My Hero Academia เรื่องราวบอกเล่าเกี่ยวกับโลกในอนาคตที่ประมาณ 80% ของประชากรโลกได้กลายพันธุ์และมีความสามารถพิเศษที่เรียกว่า ‘อัตลักษณ์ (個性)’ เอกลักษณ์นี้สืบทอดทางพันธุกรรม มีบุคคล 3 กลุ่มที่มีตัวตน:ประชาชนทั่วไป (คือ มีอัตลักษณ์ แต่ไม่ได้ใช้อัตลักษณ์ทำอาชีพใดโดยเฉพาะ)ฮีโร่ที่ใช้ตัวตนของเขาเพื่อปราบผู้ร้ายพวกอันธพาลที่เรียกตัวเองว่า ‘คนร้าย’ ใช้ตัวตนของตนเพื่อจุดประสงค์ที่ผิดกฎหมายพระเอกของเรื่องคือ มิโดริยะ อิซึคุ (緑谷出久) ผู้ใฝ่ฝันที่จะเป็นฮีโร่มาตั้งแต่เด็ก แต่ตัวเขาเองไม่มีตัวตนโดยสิ้นเชิง ส่วนที่เหลืออีก 20% ของประชากรโลกไม่สามารถมีร่างกายมนุษย์ก่อนวิวัฒนาการทางพันธุกรรมได้

เมื่อพูดถึง My Hero Academia คนส่วนใหญ่มักจะเปรียบเทียบกับ Marvel’s X-Men เพราะเมื่อดูเผินๆ โครงสร้างเรื่องราวจะคล้ายกันมาก มีมนุษย์กลายพันธุ์ที่ถูกแบ่งออกเป็นฝ่ายดีและฝ่ายชั่ว และทั้งสองฝ่ายก็ทำงานเป็นองค์กร และต้องแย่งชิงกัน แต่เมื่อดูปีที่ทั้งสองเรื่องเกิดร่วมกันโดยคำนึงถึงบริบททางประวัติศาสตร์และสังคมจะพบว่าทั้งสองเรื่องมีความแตกต่างกันมาก

The X-Men ออกสู่ตลาดครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2506 (ปวิน มาลัยวงศ์, 2554) ซึ่งยังคงเป็นยุคที่ชนกลุ่มน้อยในสังคมหรือคนชายขอบยังคงกลัวการใช้ชีวิตที่แตกต่างจากกระแสหลักของสังคม สังคม (ชนกลุ่มน้อยในสังคมหรือคนชายขอบ สามารถตีความได้ทั้งคนที่รักเพศเดียวกัน ผู้อพยพจากหลากหลายเชื้อชาติ คนที่มีรสนิยมไม่ธรรมดา เป็นต้น หมายถึง กลุ่มคนใด ๆ ที่ ‘แตกต่าง’ จากสังคมกระแสหลักนั้น ๆ ยุคสมัย) ตัวละครกลายพันธุ์ใน X-Men จึงถือเป็นชนกลุ่มน้อยในสังคม พวกเขาต้องพยายามใช้ชีวิตที่ซ่อนอยู่โดยไม่เปิดเผยให้ใครรู้ว่าพวกเขา ‘แตกต่าง’ มนุษย์กลายพันธุ์บางตัวใน X-Men มีความแตกต่างทางกายภาพที่ชัดเจนซึ่งไม่เหมือนกับมนุษย์ปกติ แต่บางคนก็ดูเหมือนมนุษย์ธรรมดาแต่มีความสามารถพิเศษซ่อนอยู่ อย่างไรก็ตาม ในสังคม X-Men มนุษย์ปกติยังไม่ยอมรับและผลักไสมนุษย์กลายพันธุ์เหล่านี้ออกไป มนุษย์กลายพันธุ์เหล่านี้ไม่ได้รับการยอมรับเป็นสมาชิกของสังคม

รีวิว My Hero Academia ในขณะที่โลกของ My Hero Academia ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า “ประมาณ 80% ของประชากรโลกได้กลายพันธุ์และพัฒนาความสามารถพิเศษ” แต่เมื่อมองว่าเป็นพรสวรรค์หรือความสามารถพิเศษ คำว่า ‘ตัวตน (個性)’ จึงถูกใช้แทน ‘มนุษย์กลายพันธุ์’ ทำให้ในโลกของ My Hero Academia คำว่า กลายพันธุ์ แปลว่าเท่ เอกลักษณ์เฉพาะตัว พรสวรรค์ หมายถึงด้านบวก และผู้ที่ไม่มีตัวตนจะถูกมองว่าเป็น ‘มนุษย์แก่’ แทน ไม่เหมือนมนุษย์กลายพันธุ์ใน X-Men ที่ต้องซ่อนตัวอยู่ในสังคมเพราะถูกมองว่าแปลก

ใน X-Men แม้ว่าบางคนจะดูเหมือนมนุษย์ธรรมดา แต่พวกเขามีความสามารถพิเศษซ่อนอยู่ ยังไม่สามารถแสดงให้เห็นได้ว่าคนๆ หนึ่งมี ‘พรสวรรค์’ เพราะยังคงเป็นแนวคิดของสังคมตั้งแต่ยุคปี 1963 แต่ My Hero Academia นั้นเป็นสังคมตั้งแต่ยุคปี 2014 เป็นต้นไป ซึ่งโลกมนุษย์ยุคใหม่ต้องการความแตกต่าง ความสามารถพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ นั่นคือในโลกแห่งความเป็นจริงที่เราทุกคนอาศัยอยู่ เราต้องการ ‘ตัวตนในโลก’ นั่นคือประชากรส่วนใหญ่ควรมีเอกลักษณ์ และควรมีเอกลักษณ์ที่เท่และดูดี ส่วนใครไม่มีตัวตนหรือมีตัวตนไม่เก๋าจะถูกล้อเลียน ดูถูก และดูหมิ่น

 

บทความแนะนำ